วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Me, Myself, and LEGO

-อายุปัจจุบันตอนนี้ของผมคือ 23 ปี และรู้จัก LEGO มาตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ชื่อรุ่นว่า System แต่เพิ่งมาเล่นและสะสมจริงจังก็ในรอบ 5 เดือนนี้เอง
- theme ที่ผมเล่นคือ LEGO City ไม่มีการ แตกไลน์ ไปซื้อ them อื่น รักเดียใจเดียว และมั่นคงต่อ City เท่านั้น
- แม้ราคาขายในไทยจะแพง (มาก) แต่ก็ขอบคุณที่ยังมี มหกรรมลด15%ที่จะจัดทุกสิ้นเดือน, ห้างสรรพสินค้า ตั้ง ฮั่ว เส็ง สาขาธนบุรี ที่มี LEGO City ลด 30% กันบ่อยมาก, และเว็บไซต์ e-commerce อย่าง aventthai และ mom2kids ที่ทำให้ผมได้ครอบครอง LEGO City ในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติในห้างฯอย่างมาก แถมส่งตรงถึงบ้านด้วย
-และขอบคุณตัวแทนจำหน่ายในไทย ที่ยังอุตส่าช่วยลดราคา LEGO City ที่เพิ่งออกมาใหม่ จนมีราคาแพงกว่าที่ขายในสิงค์โปร์ไม่เท่าไหร่ (แต่ theme อื่น แพง lost microprocessor เช่นเดิม)

-แม้ว่าทางเลือกที่ผมใช้ในการซื้อหา LEGO จะราคาแพงกว่าที่ซื้อหาใน ebay หรือการไปซื้อยังประเทศที่ขาย LEGO ถูกกว่าไทย แต่อย่างน้อย มนก็ยังเป็น LEGO ที่สร้างความสุขทางใจแก่ผม ของเล่นที่ทำให้ผมลืมเรื่องบ้าบอคอแตกสารพัดเรื่องที่เข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เรื่องที่ทำให้การตั้งราคา LEGO อันแสนแพงของตัวแทนจำหน่ายในไทย กลายเป็นเรื่องน่าโมโหอันดับรองๆของชีวิตผมไปเลย อย่างเช่นพวกคนกลุ่มเหล่านี้ ที่สร้างความหงุดหงิดแก่ชีวิตผมไม่น้อย

-ตอนเรียนมัธยมทั้งต้นและปลาย ก็เจอแต่วัยรุ่นนิสัยเสียปากไม่มีหูรูด ที่มากับคำพูดแดกดัน เสียดสีนั่นนี่เกี่ยวกับผมตลอด (แต่พวกนั้นก็กล้าได้แค่พูดเท่านั้น)
-พวกผู้ใหญ่หัวโบราณที่พูดจาไม่สร้างสรรค์
-จะเล่นอินเตอร์เน็ต ก็เ แต่พวกวัยรุ่นเกรียนๆ กับพวกผู้ใหญ่ที่พูดจาดูไม่น่านับถือ คนพวกนี้ชอบบ่นอย่างไร้วิจารณญาณในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่สามารถแก้ไขได้ และชอบด่าว่าเสียดสีคนที่เจาแสดงความคิดเห็นไม่เหมือนตน ทั้งที่ก็ไม่ได้ผิดกฎใดๆและเป็นสิทธิของเขา และบางทีความคิดเห็นนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ถูกก็ได้ (แต่อย่างว่าในโลกอินเตอร์เน็ต พกวมากมักอยุ่รอดเสมอ)
-จะดุโทรทัศน์ ก็มีแต่ละครน้ำเน่า รายการจับกลุ่มเล่าข่าวที่ผู้นำเสนอข่าวไม่ค่อยมีความเป็นกลางและชอบนำเสนอแต่ด้านเดียว (ซึ่งม พร้อมกับ SMS ร้สาระ ที่ใชถ้อยคำที่ไม่รู้ว่าถูกนำมาออกอากาศได้อย่างไร) บางทีคนนำเสนอก็ไม่รู้เรื่องข่าวที่อ่านอย่าแท้จริง (เคยเห็นมากับตา ได้ยินกับหู จากรายการที่เอาผู้หญิงสี่คนมานั่งบ่นช่วงเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ในช่องโทรทัศน์ยอดนิยมช่องหนึ่ง) ไหนจะรายการโฆษราเครื่องออกกำลังกายโกหกจอมปลอม กับพวกเรียลิตี้ลดความอ้วน ที่เอาคนอ้วนมาทำให้ดูน่าสมเพชอีก (ตอนนีเลิกดู free tv แล้ว ดูแต่พวกรายการบันเทิงทาง TrueVisions อย่างเดียว)
-จะดูหนัง ก็มีแต่หนังเสียดสีสังคม เนื้อหาซีเรียส กับเอาคนอ้วนมาทำให้ดูน่าสมเพช (ไม่ได้ดูหนังโรงมา 3 ปีแล้ว)
-เพลงเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีคุณภาพแบบแต่ก่อน เหมือนกับแบบเน้นแต่แค่ทำยอดขาย
-ไหนจะเรื่องชวนหงุดหงิดยามต้องขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เรื่องน่ารำคาญบางประการในที่สาธารณะ ที่หลายๆคนก็คงเคยเจอ

-ผมคงเป็น นักเล่น LEGO ชาวไทย ที่ลำบากที่สุดหล่ะมั๊งในเรื่องหาเลโก้ราคาถูก รายจ่ายที่บ้านก็เพียบครับ ทั้งผ่อนบ้าน ผ่อนสิ่งของบางรายการ ค่างวดบัตรเครดิตขั้นต่ำ (แต่ไม่เคยเบี้ยว จ่ายตรงเวลาตลอด) จึงทำให้โอกาสในการไปสิงค์โปค์(ซึ่งแม่ผมก็อยากไป) ก็เลยเป็นหมันไปเรียบร้อย
-นักเล่น LEGO ที่ยังเป็นเด็กคนอื่นๆก็ยังมีพ่อแม่เป็นคนออกเงินค่าซื้อเลโก้ให้ โดยอาจจะมีข้อแลกเปลี่ยนเรื่องการสอบได้คะแนนดีๆมาเป็นข้อตกลง ส่วนผมก็ต้องเก็บเงินซื้อเองแทบทุกบาท ล่าสุดที่ไปคว้าชุด City Corner มาได้ก็ต้องเก็บเงินเกือบเดือน และถ้าไม่มีเรื่องสอบ กพ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงหัวหมาก ก็ไม่ได้มีข้ออ้างเข้ากรุงเทพฯไปซื้อ LEGO หรอกครับ แถมพอแม่ผมรู้ราคา ก็พูดเลยครับว่า แพงจัง เลยมีรายการประปากกันเล็กน้อยก่อนแยกย้ายกัน (แต่ไม่ถึงกับทะเลาะกันขั้นรุนแรง นี่ขนาดว่าแม่ผมไม่ใช่ผู้ใหญหัวโบราณและให้ผมซื้อนู่นนี่เล่นนนั่นนี่ได้ ตราบเท่าที่มีเงิน และเงินนั้นไม่ต้องกู้ยืมใครจนเป็นหนี้ และไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย)
- ส่วนการซื้อใน ebay นั้น อยากครับ อยากมากๆๆๆๆๆ จะได้ซื้อชุด Hospital ที่ตอนนี้ไม่มีในไทยแล้ว แต่ผมไม่มีบัตรเครดิต และพ่อผมคงไม่ให้ผมเอาบัตรเครดิต CITIBANK ของพ่อผมเองมารูดซื้อเลโก้แน่ๆ (ล่าสุดก็เพิ่งไปชำระหนี้ 12,000 บาทมาหยกๆ) แล้วผมก็ไม่ชอการที่ต้องมาลำบากเจรจาต้าอ้วยกับคนขายในแบบภาษาอังกฤษ อะไรที่มันต้องยุ่งยากในการเจรจานั้น ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ รวมถึงการต้องมารอการส่งนานเกือบเดือนเป้นอย่างน้อยอีก (หรือขึ้นอยู่กับ location ของผู้ขาย) ผมชอบอะไรที่มันแบบ ถ้าเป้นราคาถูกก็ควรจะเป็นราคาถูกที่กำหนดไว้ตายตัวแล้ว ไม่มีเงื่อนไขที่ดูหมกเม็ดที่สามารถปั่นราคาให้สูงขึ้นได้ และถ้าเป็นแบบจ่ายเงินปุ๊บได้ของปั๊บยิ่งดีใหญ่ คงมีแต่ รถยนต์มือสอง เท่านั้นมั๊งครับ ที่คุ้มแก่การเสียเวลาเจรจาต้าอ้วยกับคนขาย (และหลังจากดูรถเสร็จ เจรจาเสร็จ เซ็นต์เอกสารครบถ้วน จ่ายเงินปุ๊บ ขับรถกลับบ้านได้ทันที)
-ก็อย่างว่าครับ งานก็ไม่มี บัตรเครดิตจะมีได้ยังไง ตอนนี้ก็นอนว่างๆ รอบวชช่วงเดือนตุลาคม ก็อยู่บ้าน ดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต เล่นเกมคอมพิวเตอร์(ซึ่งก็เกมเดิมๆที่เอามาเวียนใหม่) ดื่มกาแฟเย็นแทบจะแทนน้ำเปล่า กับทำงานบ้านอย่างซักผ้า ตากผ้า ล้างจาน ทิ้งถุงขยะที่เต็ม ยืมรถยนต์พ่อขับ โทรศัพท์หาเพื่อน(ที่มักจะมีแต่คนอยุ่ไกลที่รุ้จักทางอินเตอร์เน็ต หรือไม่ก็อายุคนละรุ่นกับผม อย่างมีอยุ่สองคน คนหนึ่งอายุน้อยกว่าผมตั้ง5ปี ส่วนอีกคนก็เป็นผู้ใหญ่อายุจะ40ปีแล้ว) กับรอโอกาสที่จะได้ไปในที่ที่ขายเลโก้โดยที่ไม่ต้องออกค่าเดินทางแม้แต่บาทเดียว

-ตอนนี้นอกจาก LEGO แล้วก็มี มิวสิควีดีโอใน Youtube, รถยนต์, รายการสารคดี การ์ตูน และวาไรตี้โชว์ จาก TrueVisions, วีดีโอเกมส์ในคอมพิวเตอร์, เว็บไซต์สำหรับคนที่อายุเกิน18ปีขึ้นไป, เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อำนวยความสะดวกแก่ผมในชีวิตประจำวัน(อย่างตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า คอมพิวเตอร์ ฯลฯ) อาหารฟาสฟู๊ดและพิซซ่า(ไม่ว่าจากแบรนด์ใดก็ตาม) รวมถึงครอบครัวของผมและเพื่อนๆที่ยังพบปะพูดคุยติดต่อกันอยู่ คือสิ่งที่ทำให้ชีวตผมสะดวกสบาย ลืมเรื่องทุกข์ร้อนเรื่องบ้าบอคอแตกและเรื่องร้ายๆต่างๆที่เคยเข้ามาในชีวิตผมได้
-รวมถึง John Goodman และ น้าเน็ก ด้วย เห้นหน้าเขาและดูการแสดงเขาทีไร ชวนอมยิ้มทุกทีสิน่า
-ผมรู้ครับว่า มีอีกหลายคนที่ลำบากกว่าผมเยอะ และผมก็กระแนะกระแหน๋คนอื่นไว้มาก แต่ผมไม่เคยยกตัวเองว่าผมดีกว่าคนเหล่านั้น ไม่เคยพูดอะไรในลักษณะที่ว่า "เฮ้ ต้องเชื่อที่ฉันพูดนะ" หรือ "เฮ้ ฉันพูดถูก คุณสิผิด"ก็แค่อยากแสดงความแตกต่างในอีกด้านให้เห็นเท่านั้น ภาษที่ผมพูดหรือนำเสนอออะไร ผมยอมรับครับว่ามันไม่ใช่ ภาษาดอกไม้ แต่ถ้ามีใครจะแย้งอะไรหรือนำเสนออะไร ผมก็รับฟังเสมอ (แต่ต้องเป้นการแย้งอย่างมีเหตุผลและมีวิจาณญาณ ไม่ใช่แย้งแบบอารมณ์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง แบบที่ผมเคยเจอมาแล้วในที่อื่น)

- แต่อย่างน้อยผมก็ยังเอจเรื่องดีๆในชีวตเป้นสัดส่วนที่ค่อนข้างมากกว่าเรื่องไม่ดี แม้จะไม่ใช่เรื่องประเภทได้โชคประเภทเงินทองของมีค่า (ที่เอาไปซื้อ LEGO ได้) แต่ก็เป็นเรื่องดีๆที่อาจจะมีค่ามากกว่าสิ่งเหล่านั้นหลายเท่า และผมเจอคนดีๆเข้ามาในชีวิตไม่น้อยเหมือนกันครับ และเป้นคนดีประเภท ดีโดยเนื้อแท้ภายในจิตใจ ซะด้วยครับ

(และแล้วก็ตัดบทเข้ามาเรื่อง LEGO อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยซะงั้น) ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน เจอเรื่องบ้าบอคอแตกและเรื่องชวนหงุดหงิดมาสักเพียงใด รวมถึงจะเจอคำพูดชวนอารมณ์บ่จอย (ศัพท์โบราณมาก) สักเพียงใด "LEGO ขของเล่นที่ให้ความสุขแก่ผม และช่วยให้ลืมเรื่องไม่ดีต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิจได้ ท่ามกลางสังคมที่สับสนวุ่นวายและเต็มไปด้วยผู้คนที่เอาแน่นเอานอนทางความคิดไม่ได้" (เวอร์ไปมั๊ยเนี่ย)

" LEGO ความสุขที่คุณต่อได้ " (ฟังแล้วเหมือนเบียร์ Closter เลยวุ้ย)

ไม่มีความคิดเห็น: