วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Recylce ช่วยโลกได้จริงหรือ-บทความจาก nunsina.exteen

เห็นว่าน่าสนใจ และเป็นเรื่องที่เราอาจจะมองข้ามไป ขออนุญาติเอามาลงทั้งดุ้นเลยนะครับ

-------------------------------------------------------------------------------
รายการหนึ่งทาง True ที่ผมชอบดู คือ Bull Shit : Pen & Teller รายการนี้เป็นนำเสนอ เนื้อหาที่เป็นเรื่องทั่วๆไปที่มีขึ้นบนโลกใบนี้ และเป็นสิ่งที่แพร่หลายไปทั้งโลกด้วย เอามานำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งที่ต่างออกไป ไม่ใช่นำเสนอแต่ในแง่ที่ดี (มันเป็นเรื่องปรกติที่พยายามนำเสนอแต่เรื่องดีๆอยู่แล้ว) ความยาว 25 นาที/ตอน โดยประมาณ

จากตรงนี้ไปอ่านอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะครับ
อย่างเช่นองค์กรพิทักษ์สัตว์(PETA) ที่พยายามปกป้องสัตว์ที่ถูกทำการทดลองจากมนุษย์ และเป็นที่มีสมาชิกทั่วโลก กว่า 1แสนคนเลย รายการก็จะเสนอในแง่ความจริงในแนวคิดบ้าๆ (งงไหมเนี่ย) อย่างเช่นการช่วยบุกช่วยเหลือสัตว์ต่างๆจากห้องทดลอง ทำลายตึกห้องทดลองต่างๆ เพราะเห็นว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แล้วสัตว์ที่ ที่พวกนั้นช่วยเหลือออกมา พวกเขาเอาไปเลี้ยงมั้ย คำตอบก็คือ "ไม่" ก็ส่งให้เทศบาลเอาไปดูแลสัตว์ เทศบาลก็ไม่มีเงินดูแลสัตว์เพราะต้องใช้เงินต่อเดือนจำนวนมากเป็นค่าอาหาร ก็แบกรับค่าใช้จ่ายจากสัตว์ที่พวกนี้โยนมาให้ไม่ไหว เลยต้องฉีดยาให้สัตว์พวกนี้ตายเดือนละเป็นร้อยตัว แล้วเจ้าพวกองค์กรพิทักษ์สัตว์นี้ก็มาประท้วงเทศบาลต่อ หาว่าฆ่าสัตว์ที่ไม่มีความผิดอีก(แล้วทำไมพวกนายไม่เอาเลี้ยงล่ะ)
สำนักงานใหญ่องค์กรพิทักษ์สัตว์นี้ ทั้งที่เป็นองค์กรประเภทNGO(ไม่แสวงหากำไร) แต่เป็นตึกมูลค่า ร้อยล้านดอลล่า ตั้งอยู่ริมน้ำที่สวยงาม(เอ...เอาเงินที่ไหนมาสร้างนะ) และที่ผมฮาสุดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้หญิงที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในองค์กร ก็ป่วยเป็นโรคร้ายอย่างหนึ่งที่ ต้องใช้ยารักษาที่สร้างมาจากห้องทดลองที่ค้นคว้าจากห้องทดลองที่ทดลองจากสัตว์ที่พวกเขาพิทักษ์นั่นแหล่ะ แล้วรู้ไหมว่า พอมีคนถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้นำคนนี้ก็ตอบออกมาแนวๆว่า "ฉันต้องรักษาชีวิตของฉันเพื่อจะได้มาช่วยสัตว์ที่น่าสงสาร เหล่านั้นไง" ..............
ออกนอกเรื่องไปไกลมาก...... กลับมาๆ เรื่องRecycle ตอนหนึ่งรายการ Bull Shit นี้ก็นำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง Recycle ผมไม่ได้อัดไว้ ไม่ได้ดูซ้ำ และไม่ได้จด เนื้อหาจึงอาจจะไม่ละเอียดนักเรื่องตัวเลข เพราะมาจากการจำในการดูครั้งเดียวเท่านั้น -*-....
ประมาณ ปี1970กว่าๆ USA ได้กำหนด สิ่งต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ(จำภาษาอังกฤษไม่ได้) หนึ่งในเรื่องนั้นคือ "Recycle" โดยผู้กำหนดแนวคิดในตอนนั้นชื่อ Jay Winston Potter.......
ของหลักๆที่เรา Recycle มีอะไรมั่ง ก็กระดาษ ขวดพลาสติก กระป๋องอลูมิเนี่ยม ใช่ไหมครับ อาจจะมีมากกว่านี้ แต่นี่คือพวกหลักๆ แต่เชื่อไหมว่าค่าใช้จ่ายในกระบวนการ Recycle กระดาษกับพลาสติก กลับแพงกว่าผลิตใหม่ เกือบ 3เท่าแถมยังได้คุณภาพไม่ดี โดยเฉพาะ พลาสติกที่รีไซเคิลแล้วเอามาทำใหม่ก็เอาทำได้แต่ของคุณภาพไม่ดีของที่ไม่ค่อยมีคนใช้ กระดาษก็เห็นๆกันอยู่ หนังสือพิมพ์นั่นไง หรือหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ของ Japan เล่มละ 2-300 บาท นั่นไงว่าคุณภาพมันดีขนยาดไหน....... ส่วนกระป๋องน้ำต่างๆที่สามารถเอามา Recycle ได้นั้น ค่าใช้จ่ายในการ Recycle ถูกกว่าผลิตใหม่ราวๆ40%เท่านั้น
เรามาลองนึกดูถึงข้อดีที่เราได้จากการ Recycle กันบ้าง

Good Enviroment - คนเรามักคิดว่า การ Recycle ดีต่อสิ่งแวดล้อม ขยะไม่ไปทำลายสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ แต่จริงๆแล้ว การเผาทำลายขยะ ก็เกิดอากาศเสียจากการเผา หรือการ Recycleสิ่งของต่างๆ ก็ต้องแยกของที่ใช้ไม้ได้เช่นพวกหมึกจากกระดาษ สารเคมีต่างๆ ออกจากสิ่งที่นำมาใช้ใหม่ได้ แล้วของที่ไม่ต้องการเหล่านั้นมันหายไปไหนล่ะ ..... เนื่องจากมันเป็นขยะเคมีที่มันอันตรายมากก็ต้องจ้างๆพวกบริษัทที่รับจำกัดพวกนี้ ไปแอบฝังตามที่ต่างๆที่เราไม่มีวันรู้อีกต่างหาก(สิ่งที่เอามาสร้างบ้าน สร้างถนนที่เราอยู่นี้ ก็อาจจะมีการปนเปื้อนสารเหล่านี้อยู่ก็ได้ ตามที่มีสารคดี การฟ้องการทิ้งสารเคมีอันตรายอย่างผิดกฏหมายทั่วๆไป .........
) ถ้าไม่เผาไม่ Recycle จะให้ทำยังไง อ้อขุดหลุมฝัง มันก็ไปเป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อมไม่ใช่หรือ แถมยังส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้ เรื่องนี้ ผมขอโยงไปหัวข้อ Save Enegy ครับ

Save Enegy - Recycle มันประหยัดพลังงานยังไง เอ๊ะ ถ้าลองคิดดูดีๆ ก็จะนึกได้ว่ามัน....ต้องใช้ น้ำมันเพิ่มจากรถขนขยะปรกติ ก็ต้องเพิ่มรถขนขยะ Recycle จะกระดาษจะอะไรก็เถอะ จริงไหม..... แถม... ถ้าเผาขยะ ก็ต้องใช้เชื้อเพลิงอีก ส่วนพลังไฟฟ้าที่โรงงาน Recycleตามกระบวนการต่างๆใช้ 1เดือนนั้น ก็เพียงพอที่จะใช้ตามเมืองใหญ่ๆ ได้ตั้ง 3เดือน .....อื้ม ....... การ Recycle เป็นการประหยัดพลังงาน จริงๆ
แต่เดี๋ยวก่อนเรื่องประหยัดพลังงานยังไม่จบ เรื่องที่สืบเนื่องมาจาก "ดีต่อสิ่งแวดล้อม" การกำจัดขยะที่คนทำมาช้านานนั่นคือการขุดหลุมฝังขยะ การฝังขยะปัญหาที่ตามมาคือของเน่าหม็น เกิดก๊าซมีเทนส่งผลให้คนที่อยู่รอบๆที่ฝังทิ้งขยะ เดือดร้อนใช้ไหมครับ แต่ว่าที่ USA เขามีการทำเป็นระบบ ขุดหลุมฝัง ห่างไกลแหล่งน้ำ ทำที่เฉพาะ(ขี้เกียจอธิบาย เพราะไม่รู้ละเอียด) ส่วนก๊าซ มีเทนที่ได้จากขยะ เขาเอาไปผลิตพลังงานไฟฟ้า .... โดยในรายการอ้างว่า ..... ก๊าซมีเทนจากขยะ ปริมาณ1ปี สามารถนำไปผลิตไฟฟ้าได้ตั้ง 30ปี!!! คุณเชื่อหรือเปล่าล่ะ(ถ้าให้นึกภาพง่ายๆ ใครเคยเล่น Sim City นึกภาพโรงงานไฟฟ้าจากขยะไว้ แต่ในเกมมันเป็นการสร้างไฟฟ้าจากการเผาขยะซึ่งผมไม่ค่อยเข้าใจระบบเหมือนกัน(ใช้พลังงานจล สร้างพลังงานกลไปเกิดพลังงานกลอีกทีมั้ง) มันเลยส่งผลต่อมลภาวะในเกม .... และผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันไอ้โรงงานไฟฟ้าจากก๊าซมีเทนเนี่ยะ ส่งผลต่อมลภาวะ แค่ไหนเหมือนกัน) ส่วนที่ทิ้งขยะที่อ่อนนุช เรามีวิธีจัดการกับมันยังไงอยู่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันใครรู้ช่วยบอกที...... ท่านผู้ว่ากทม .....

Save Tree - การดาษผลิตจากเยื่อไม้ เยื่อไม้ได้จากไม้ คนจึงเชื่อกันว่าถ้า Recycleกระดาษที่ใช้แล้วเช่นหนังสือพิมพ์ จะเป็นการช่วยรักษา ต้นไม้ ทำให้มีอากาศหายใจ...... จริงๆแล้ว เยื่อไม้จากต้นไม้ที่นำใช้ในการผลิตกระดาษนั้น ได้มาจากต้นไม้ที่เขาปลูกมาเพื่อผลิตกระดาษโดยเฉพาะทำกันเป็น Farm ต้นไม้เพราะได้คุณภาพดีกว่าจะไปเอาเยื่อต้นไม้มั่วๆมาใช้(อ้าว..) ตัวอย่างบ้านเราก็โครงการ ปลูกต้นกระดาษAA ตามคันนาบ้านเรานั่นไง..... ส่วนต้นไม้ที่หายไปจากโลกปีละหลายๆล้านต้นมาจาก คนที่ตัดเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ หรือถางป่าทำพืชไร่ หรือสร้างที่อยู่มากกว่า.... เพราะฉนั้น..... การ Recycleกระดาษไม่ช่วย อนุรักษ์ต้นไม้แน่นอน ....

Save Money - การใช้ของ Recycle ไม่ได้ช่วยประหยัดเงินแน่นอนอย่าลืมว่า ของที่ Recycle มักจะคุณภาพแย่กว่า และมักจะแพงกว่า และค่าจ้างที่รัฐจ่ายให้พนักงานเก็บขยะที่มาขนขยะเราไป Recycle รัฐเอาเงินมาจากไหนก็เงินภาษี จากเราๆทั้งนั้น ....... แล้วมันประหยัดเงินเราตรงไหนเนี่ยะ ส่วนเรื่องบริษัทที่ผลิตวัตถุดิบ ก่อนจะนำไปแปรรูปก็ต้องจ่ายแพงกว่าปรกติ อีก ...... แล้วมัน ประหยัดเงินตรงไหนเนี่ยะ

Create A Job - เกิดการสร้างงาน จำนวนมาก แต่คนที่ได้รับผลประโยชน์ไม่ใช่เราๆท่านๆที่สร้างขยะกันอยู่ทุกวันแน่ๆ แต่เราสร้างงาน ให้คนที่ทำหน้าที่เก็บขยะ ขับรถขนขยะ แยกขยะ และคนที่หน้าที่ในโรงงาน Recycle มีงานและมีรายได้ เพราะฉนั้นหัวข้อนี้ผมว่ามันน่าจะเป็นเรื่องดี ........ แต่เคยได้ยินกันมั่งไหมว่า คนเก็บกวาดขยะตามท้องถนน รายได้วันละเป็น พัน ฿_฿......

ฮ่า ฮ่า ฮ่า คงสังเกตุได้ไม่ยากว่า ข้อมูลในแต่ละหัวข้อมันน้อยลงเรื่อยๆ จริงๆแล้วในรายการ ได้เสนอข้อมูลที่เราเข้าใจกันผิดๆเกี่ยวกับ Recycle ไว้ 7-8 ข้อ แต่ผมดันนึก ออก 5 เองแฮะ อีกอย่างเพราะรายการ โยงเรื่องกันไปมา อย่างงงนิดๆ คือ นำเสนอข้อมูลมาเยอะๆ แล้วแยกเป็นหัวข้อทีหลังแถมยังไม่เป็นระเบียบอีกต่างหาก ซึ่งต่างจากปรกติที่ควรจะเป็นที่ นำเสนอหัวข้อมาก่อนแล้วอธิบายเนื้อหาในข้อมูลนั้น .......... นี่แหล่ะ Bull Shit : Penn & Teller รายการที่นำเสนอข้อมูลสวาระอย่างเพี้ยนๆ.... -__-....... ดังที่กล่าวมาผมเลย ต้องมานั่งประมวลข้อมูลในหัวสมอง แยกประเภทเองอีกต่างหาก...... บวกกับระยะเวลาเป็นเดือนมาแล้วทำให้ข้อมูลลางเลือนไปบ้าง แหะ....แหะ........แหะ....

หลังจากที่ทนอ่านตัวหนังสือเป็นพรืดมาจนถึงตรงนี้ คิดบ้างหรือเปล่าว่า... "ไอ้หมอนี่ต่อต้านเรื่อง Recycle แหงๆ" ผมบอกได้เลยว่า ผมไม่ได้ต่อต้านการ Recycleอย่างยิ่ง หรือ เห็นด้วยอย่างสุดกู่ ...... ไม่ว่าจะเรื่องอะไร จะภาวะโลกร้อน จะ น้ำมันแพง ประหยัดไฟฟ้า ถุงฟ้า หรืออะไรผมก็ทำ....เท่าที่พอทำได้เท่านั้นแหล่ะ แค่ปรับมันให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันของผมโดยวิถีชีวิตไม่เปลี่ยน ....... ก็เท่านั้น
อย่างรถพลังงานไฟฟ้า ที่ช่วงหลายๆปีหลัง รถยี่ห้อดังๆทั้ง หลายพยายามผลิตกันออกมา ก่อนที่จะเกิดวิกฤต Hamburger เนี่ยะ ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นการประหยัดพลังงานตรงไหน แค่เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเท่านั้นเอง.... ประหยัดค่าน้ำมันตอนช่วงน้ำมันแพง อาจจะใช่.....แล้วค่าไฟฟ้า จากการชาร์จไฟฟ้าให้รถจากบ้านมันเพิ่มมาในบิลตั้งเท่าไหร่ ผมเคยดูสารคดีทาง Discovery เขาเปรียบเทียบ การค่าใช้จ่ายพลังงานน้ำมันต่อพลังไฟฟ้า ผมจำตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ แต่สรุปคือถ้าเราใช้รถไฟฟ้า จ่ายค่าไฟฟ้าแพงกว่าจ่ายค่าน้ำมันแน่นอน ด้านความเร็วของรถอย่าไปพูดถึงมันแล้วกัน......... ส่วนเรื่องมันดีกว่าสิ่งแวดล้อมนั้น ......เอ่อ ..... เราผลิตกระแสไฟฟ้ามากจากอะไรมั่ง....... หลักๆใหญ่ๆก็ เขื่อนกันน้ำ โรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ และ โรงงานไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ(น้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน ฯลฯ) นอกจากอันแรก ........ มันดีต่อสิ่งแวดล้อมไหมนี่......

ขอบคุณถ้ายังมีคนทนอ่านมาจนถึงตรงนี้ ข้อมูล 95% นั้นมาจากรายการ Bull Shit : Penn & Teller ซึ่งเป็นรายการของทาง USA ข้อมูลทั้งหมดมาจากการวิจัยของทาง USA ล้วนๆ เพราะฉนั้น อาจจะใช้กับเมืองไทยเราไม่ได้เลยก็ได้ -___________- เขียนมาทำไมตั้งยาว................. นั่นสินะ ....... เอาเป็นว่าอ่านเล่นๆเพลินแล้วกัน (^_^)b(อีก5%มาจากความรู้ทั่วไปในสมองอันกระจ๊อยร๊อย ของผม)
แถมข้อมูลเล็กน้อย .....USA ผลิตขยะ ปีละ 220 ตัน ........ หลุมฝังขยะ กว้าง 35x35ไมล์ ลึกเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่เพียงพอจะ ใช้ฝังขยะให้ USA ได้ 1000 ปี ..... เอ่อ...ไม่รวมขยะ อิเล๊คโทรนิคมั้ง .......

-----------------------------------------------------------------------------------

ความเห้นส่วนตัวของผม : ผมเองก็ดูรายการนี้ทางช่อง True X-Zyte เช่นกัน เรื่องนี้ผมไม่ได้ดู แต่ผมค่อนข้างที่จะเห็นด้วยครับ ว่าการ recycle อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนักในการจัดการกับขยะทุกประเภท และเผลอๆก่อมลพิษและใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่าการผลิตใหม่เสียอีก รวมถึงคุณภาพของวัสดุที่ผลิตจากการ recycle ก็แย่ลงอีก มันเคยเกิดขึ้นแล้วกับรถยนต์ Mercedes-Benz รหัสตัวถัง W-124 (ก็เจ้า E-class โลงจำปานั่นแหล่ะ) ที่มีปัญหาว่าสายไฟของระบบต่างๆไม่ทนเท่าที่ควรเพราะใช้วัสดุrecycle

กับเรื่องที่ผู้เขียนบทความพูดถึงเรื่อง รถยนต์ไฟฟ้า อาจจะไม่ได้ช่วยโลกอย่างที่คิด ผมก้เห้นด้วย และผมก็คิดแบบนี้ก่อนจะมาเจอบทความนี้ซะอีก เพราะโอเค ตัวรถใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อน แต่ไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จหล่ะ ก็มาจากการเผาถ่านหินหรือเชื้อเพลิงปิโตรเลียมประเภทอื่นอยู่ดี แล้วชิ้นส่วนจำพวก แบ็ตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า อันเป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนหลักนั้น มันก็ต้องมีการเสื่อมสภาพ กลายเป็นขยะอันตรายอีก (ต่อให้เป้นแบ็ตเตอรรี่ Li-on ก็เถอะ) ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนมันก็สูงใช่เล่น รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะตามมาอีก และอีกนานครับ กว่ารถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าแบบเพียวๆจะมีศักยภาพเทียบเท่ารถยนต์ใช้น้ำมันในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถทื่ต้องใช้กำลังอย่างรถบรรทุก

ดูเหมือนว่าบางครั้ง สิ่งที่ดูดีดูเริศและน่าเชื่อถือ เป้นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป้นสิ่งที่ดูเหมือนว่าทำเพราะความหวังดี อาจจะไม่ดีอย่างที่คิดก็ได้ และผมว่าแค่เราไม่ใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยจนเกินไป เท่านี้ก็ช่วยดลกได้มากแล้วครับ